ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก
ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก
Author: หมาป่าผู้คลั่งรักมันฝรั่ง
บทที่ 1
Author: หมาป่าผู้คลั่งรักมันฝรั่ง
last update Last Updated: 2024-10-29 19:42:56
ณ คฤหาสน์ซิมเมอร์ของตระกูลซิมเมอร์ในเมืองนิอัมมี่ ที่ถูกประดับตกแต่งไปด้วยแสงไฟมากมาย

คืนนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดอายุครบเจ็ดสิบปีของผู้อาวุโสใหญ่แห่งตระกูลซิมเมอร์ ภายในงานเต็มไปด้วยแขกผู้มีเกียรติมากหน้าหลายตา

ลูกๆ หลานๆ ทุกคนมอบของขวัญให้กับเขาและอวยพรท่านอย่างพร้อมเพรียงว่า “พวกเราขออวยพรให้คุณปู่มีสุขภาพที่ดีและมีอายุยืนยาวนะคะ/ครับ”

ท่านซิมเมอร์ก็เผยใบหน้าที่มีเลือดฝาดเหมือนกลีบกุหลาบและดูมีพลังขึ้นมาขณะที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ พร้อมเอ่ยขึ้นมาว่า “ดีจัง พวกเธอช่างเป็นคนที่นอบน้อมเสียจริงๆ ปู่รู้สึกมีความสุขมากๆ ดังนั้นวันนี้ปู่จะยอมให้ในสิ่งที่พวกเธออยากได้ทีละคนเลย! แค่บอกมาว่าพวกเธออยากได้อะไร”

“คุณปู่คะ หนูอยากได้อพาร์ทเมนต์ใกล้ทะเลค่ะ มันไม่แพงเลย แค่ล้านดอลลาร์กว่าเท่านั้นเอง…”

“คุณปู่คะ หนูอยากได้กระเป๋าชาแนลรุ่นลิมิเต็ด อิดิชั่นค่ะ…”

“คุณปู่ครับ ผมอยากได้รถสปอร์ต BMW …”

“คุณปู่ครับ ผมอยากได้นาฬิกาโรเล็กซ์…”

“...”

"โอเคๆ ปู่จะให้ทุกอย่างที่พวกเธอขอมา!” ผู้อาวุโสใหญ่แห่งตระกูลซิมเมอร์ให้สัญญากับพวกเขาโดยไม่มีความลังเลใดๆ

เด็กหนุ่มและเด็กสาว เมื่อได้ในสิ่งที่ต้องการต่างก็ดีใจกันมากจนพวกเขาแทบจะคุกเข่าลงกับพื้นด้วยความรู้สึกซาบซึ้งใจ

แค่ได้มองสีหน้าท่าทางของพวกหลานๆ มันทำให้คุณปู่ซิมเมอร์ดีใจและเขารู้สึกพอใจที่ได้ทำให้หลานๆ ของเขามีความสุข

ในขณะนั้น ฮาร์วี่ย์ ยอร์ก ลูกเขยของตระกูลซิมเมอร์ เหมือนต้องการจะพูดอะไรสักอย่าง ได้ย่างฝีเท้าออกมาด้านหน้าทันที “คุณปู่ครับ ได้โปรดซื้อสกู๊ตเตอร์ให้ผมสักคันได้ไหมครับ? สกู๊ตเตอร์ทำให้ผมสะดวกมากขึ้นในตอนที่ผมออกไปข้างนอกหรือไปจ่ายตลาดครับ...”

ทันใดนั้น ทุกคนในครอบครัวก็ตกใจจนแทบจะหยุดนิ่งไปชั่วครู่ เมื่อพวกเขามองไปที่ฮาร์วี่ย์ด้วยความไม่เชื่อสายตาตัวเอง

ลูกเขยคนนี้นี่เสียสติไปแล้วหรือเปล่านะ? เนื่องในโอกาสอะไรละ? เป็นแค่ลูกเขยนะจะเรียกร้องได้ด้วยหรือ?

มิหนำซ้ำ เขาไม่มีแม้แต่ของขวัญสักชิ้นมอบให้กับผู้อาวุโสใหญ่แห่งตระกูลซิมเมอร์สำหรับงานวันเกิดเลยด้วยซ้ำ เขากลับทำตัวหน้าไม่อาย ด้วยการมาขออะไรกับท่านซิมเมอร์ได้ยังไงกัน? แม้ว่าเขาจะไม่ขออะไรมากมาย แต่กลับเป็นสกู๊ตเตอร์เพียงคันเดียว นี่เขาจงใจจะฉีกหน้าท่านหรือเปล่านะ?

เมื่อ 3 ปีที่แล้ว พวกเขาไม่รู้ว่าคุณย่าใหญ่แห่งตระกูลซิมเมอร์ไปเจอฮาร์วี่ย์ได้อย่างไร แถมคุณย่ายังบังคับให้หลานสาวคนโตแต่งงานกับเขา ในตอนนั้นฮาร์วี่ย์เป็นเพียงผู้ชายจนๆคนหนึ่ง ซึ่งไม่ต่างจากขอทานเลยสักนิดเดียว

แต่ถึงกระนั้นก็เถอะ ในวันแต่งงานของทั้งคู่ คุณย่าใหญ่ของตระกูลซิมเมอร์ก็ด่วนจากไปเสียก่อน ตั้งแต่นั้นมาทุกคนในตระกูลซิมเมอร์ต่างก็ดูถูกดูแคลนฮาร์วีย์มาโดยตลอด ในช่วงตลอดสามปีที่ผ่านมาฮาร์วีย์นั้นได้ทำงานประหนึ่งว่าตนเป็นคนรับใช้ของคฤหาสน์แห่งนี้ เขาต้องเตรียมน้ำไว้ให้คนอื่นๆ ล้างเท้า เท่านั้นยังไม่พอ เขายังต้องเข้าครัวทำอาหารอีกด้วย แน่นอนล่ะ เขาใช้ชีวิตที่ค่อนข้างน่าแร้นแค้นที่นั่น

ตอนนี้ เขาเปล่งเสียงออกมาและร้องขอสกู๊ตเตอร์คันเดียว มันเป็นอะไรที่ดีที่สุดแล้วสำหรับเขา

สกู๊ตเตอร์คันเก่าถูกขโมยไปตอนไปจ่ายตลาดเมื่อวันก่อน ฮาร์วีย์ไม่มีเงินติดตัวเลยสักดอลลาร์ เขาจึงเปล่งคำขอของเขาออกไปในตอนนั้น

และด้วยผู้อาวุโสใหญ่แห่งตระกูลซิมเมอร์ที่ดูเหมือนกำลังมีความสุข ฮาร์วี่ย์จึงคิดว่าตอนนี้น่าจะเป็นโอกาสที่จะขอในสิ่งที่เขาปรารถนา แม้ดูเหมือนว่ามันจะเป็นเพียงสิ่งเล็กน้อยเท่านั้น

ใบหน้าของผู้อาวุโสใหญ่แห่งตระกูลซิมเมอร์ที่เคยปรากฏถึงความสุขใจ ก็ค่อยๆ เปลี่ยนไปเป็นใบหน้าที่ดูอึมครึมทันที เขาเขวี้ยงแก้วในมือจนมันแตกเป็นเสี่ยงๆบนพื้น แล้วตะโกนออกมเสียงดังาด้วยความโกรธว่า “ไอ้เ*ว! แกมาร่วมงานวันเกิดฉันหรือแกมาทำลายความสุขของทุกคนกันแน่หะ?”

แมนดี้ ซิมเมอร์ ภรรยาของฮาร์วี่ย์รีบเข้ามาและอธิบายให้คุณปู่ของเธอฟังว่า “คุณปู่ค่ะ ฮาร์วี่ย์ไม่ได้ตั้งใจ วันนี้เป็นวันดี คุณปู่อย่าถือโทษโกรธเขาเลยนะคะ”

จากนั้น แมนดี้ได้ดึงตัวฮาร์วีย์ออกมาอยู่ข้างๆตน

ในจังหวะเดียวกัน ควินน์ ซิมเมอร์ ลูกพี่ลูกน้องของแมนดี้ก็หัวเราะหยันออกมา “แมนดี้ ดูแลสามีที่ไร้ประโยชน์ของเธอด้วยสิ! แล้ววันนี้เรามีงานสำคัญอะไรล่ะ? นี่มันงานเลี้ยงฉลองวันเกิดปีที่ เจ็ดสิบของคุณปู่นะ แล้วนี่อะไร สามีของเธอก็มาตัวเปล่า แล้วเขากล้าดียังไงที่จะมาขออะไรจากคุณปู่น่ะ? เขาอวดดีแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?

“ใช่ๆ เขาไม่มีมารยาทเอาซะเลย กล้าขออะไรจากคุณปู่ได้อย่างไร? เขาไม่เห็นเหรอว่าวันนี้มีแขกมาร่วมงานมากแค่ไหน? นี่มันช่างฉีกหน้ากันเสียจริง!” คนที่สบถมันออกมาคือ แซ็ค ซิมเมอร์ หลานชายคนโตสุดที่รักของผู้อาวุโสใหญ่แห่งตระกูลซิมเมอร์ เขามักจะไม่ลงรอยกับแมนดี้ แล้วตอนนี้นี่แหละคือโอกาสที่เขาจะได้เยาะเย้ยเธอ

“ช่างเป็นไอ้เ*วที่ไร้ค่าอะไรขนาดนี้! มันถูกแล้วใช่ไหมที่เขาต้องมาอยู่ในครอบครัวของเราน่ะ?”

"ใช่! เขาฉีกหน้าเราชัดๆ!”

“ฉันพอจะเข้าใจแล้วตอนนี้ เขาจงใจปั่นประสาทเรา! เขาต้องการทำลายช่วงเวลาแห่งความสุขของคุณปู่!”

“ช่างโง่สิ้นดี! คฤหาสน์ของเราก็มีคนรับใช้ตั้งเยอะแยะ ทำไมเราจึงจำเป็นต้องออกไปจ่ายตลาดเองอีก”

“แกไม่แม้แต่จะขยันด้วยซ้ำ ไร้ยางอายอะไรขนาดนี้! นี่แกคิดว่าตัวเองนั้นเป็นคนสำคัญกับเราหรือยังไง?”

“ไสหัวไปให้พ้น! ถ้าแกมาฉีกหน้าพวกเราอีกล่ะก็ ฉันนี่แหละจะสั่งสอนแกเอง!”

“...”

เมื่อได้ฟังคำประณามและการทับถมต่างๆ นานา จากคนในตระกูลซิมเมอร์ ฮาร์วีย์ก็เหลืออดแต่ก็ทำเป็นมองข้ามไป

เมื่อสามปีก่อน ฮาร์วี่ย์อาจจะตายไปแล้วก็ได้ หากไม่ได้คุณย่าใหญ่ของตระกูลซิมเมอร์ช่วยเขาไว้และพาเขาเข้ามาอยู่ที่นี่ นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไม เขาไม่เคยปริปากบ่นอะไรเลย แม้ว่าเขาจำต้องทำงาน ประหนึ่งเป็นคนรับใช้ให้กับครอบครัวนี้มาตลอดสามปี

“คุณท่านครับ คุณดอน แซนเดอร์ ผู้จัดการจาก ยอร์ค เอ็นเทอร์ไพรส์ มาอวยพรวันเกิดคุณปู่ครับ!” เสียงใครบางคนพูดอยู่ตรงประตูคฤหาสน์

ทันใดนั้นเอง ก็มีชายหนุ่มรูปงาม รูปร่างสูงโปร่ง เดินเข้ามายังห้องโถง ด้วยใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม

ยอร์ก เอนเตอร์ไพรส์นั้น เป็นธุรกิจครอบครัวของตระกูลยอร์ก ซึ่งมีอิทธิพลสูงสุดในเซาธ์ไลท์

มิหนำซ้ำ ดอน ยังเป็นหนึ่งในผู้จัดการโครงการที่ทำงานให้กับ ยอร์ก เอนเตอร์ไพรส์ เขามาจากครอบครัวที่มีภูมิฐานดีและยังดำรงตำแหน่งสำคัญและมีเกียรติในบริษัทอีกด้วย

หลายต่อหลายตระกูลในนิอัมมี่ก็ต่างต้องการที่จะใกล้ชิดสนิทสนมกับเขาทั้งนั้น แต่ทว่าพวกเขานั้นไม่เคยได้มีโอกาสดีๆอะไรเช่นนี้เลย แต่ก็น่าแปลกใจนะ ที่จู่ๆ เขาก็มาร่วมอวยพรวันเกิดให้ท่านซิมเมอร์เสียได้

“คุณท่านครับ นี่ครับของขวัญที่ผมเตรียมมาให้!”

ดอนยิ้มและกล่าวทักทาย และเมื่อเขาเปิดกล่องของขวัญออก ทำให้ทุกคนต้องตกตะลึงอีกครั้ง

ในกล่องของขวัญนั้นมีเช็คใบหนึ่งและมีมูลค่ามากถึงแปดแสนแปดหมื่นดอลลาร์เลยทีเดียว

ในเมืองนิอัมมี่ เงินจำนวนประมาณนี้จะถูกใช้ในการสู่ขอใครสักคนแต่งงาน

“คุณท่านครับ ที่ผมมาในวันนี้ก็เพื่อมาขอแมนดี้แต่งงานครับ ผมชื่นชมเธอมานานแล้วครับ ตอนนี้ผมก็หวังวัาเธอจะตอบตกลงรับข้อเสนอของผมและแต่งงานกับผม!”

คนอื่นๆ นั้นต่างอ้าปากค้างด้วยความงงงวย

แล้วในทันใดนั้นเอง ทุกคนต่างต้องตกตะลึง

แมนดี้เป็นภรรยาของฮาร์วี่ย์นะ ดอนไม่สนใจเรื่องนั้นเลยเหรอ? เขาไม่แสดงความเคารพยำเกรงใดๆ ต่อฮาร์วีย์เลยด้วยซ้ำ

แต่หลังจากได้พิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้ว ฮาร์วีย์ก็เป็นเพียงลูกเขยไร้ค่าที่ถูกรับมาเลี้ยงเท่านั้น ทำไมดอนจะต้องไปเคารพนับถือเขาล่ะ? ดอนไม่กลัวด้วยซ้ำว่าเขาอาจจะทำให้ฮาร์วีย์ไม่พอใจขึ้นมา

“ผมรู้ว่าสิ่งที่ผมพูดมันอาจจะกะทันหันเกินไปหน่อย แต่ผมก็ทนไม่ได้ที่จะเห็นแมนดี้ที่รักของผมต้องใช้ชีวิตร่วมกับผู้ชายที่ไร้ประโยชน์คนนี้ คุณท่านครับผมก็หวังว่าคุณท่านจะสามารถพิจารณาข้อเสนอของผมอย่างที่เห็นสมควรนะครับ” ดอนยิ้มและกล่าวออกไป จากนั้นเขาก็หันกลับมาและยิ้มให้แมนดี้อีกครั้งก่อนที่เขาจะหันหลังแล้วเดินจากไป

จนถึงตอนนั้น ดอนไม่แม้แต่เหลือบมองมาที่ฮาร์วี่ย์เลยสักนิด เขาไม่ได้กังวลใดๆเกี่ยวกับฮาร์วี่ย์เสียด้วยซ้ำ

หลังจากที่เขาออกไปแล้ว ทุกคนก็ปรึกษาหารือกันอย่างดุเดือด

"คุณแซนเดอร์ เป็นผู้จัดการแผนกของยอร์ก เอนเตอร์ไพรส์ เขามีอิทธิพลมาก ฉันได้ยินมาว่าการตัดสินใจเพียงครั้งเดียวของเขาอาจตัดสินชะตากรรมของบริษัทเล็กๆ ได้เลยว่าจะยุบทิ้งหรือทำให้เติบโต”

“แมนดี้เธอโชคดีมากเลยนะ! ถ้าเธอแต่งงานกับมิสเตอร์แซนเดอร์ย่อมดีกว่าต้องอยู่กับฮาร์วีย์ผู้ไร้ประโยชน์แน่ๆ!”

“ถ้าทั้งสองคนนี้แต่งงาน ครอบครัวเราก็พลอยได้ผลประโยชน์ไปด้วยแน่นอน”

ซินเธีย ซิมเมอร์ น้องสาวของแมนดี้ ได้ก้าวออกมาข้างหน้าและได้พูดว่า “ฮาร์วีย์ นายไม่อยากได้สกู๊ตเตอร์แล้วเหรอไง?” ถ้านายตกลงยอมหย่ากับพี่สาวฉัน ฉันจะซื้อสกู๊ตเตอร์ให้นายพรุ่งนี้เลย เอาไหม?”

"ใช่เลย! ที่ซีนเธียร์พูดนั้นยอดเยี่ยมมาก!”

“ชายไร้ค่าคนนี้ไม่ได้อยากได้สกู๊ตเตอร์หรอกเหรอ? พวกเราจะได้ซื้อให้เขาสักคัน! แต่เขาต้องหย่ากับแมนดี้!”

ดวงตาของท่านซิมเมอร์ก็กระพริบลง เขามองฮาร์วี่ย์อย่างสื่อความหมายและพูดว่า “ฮาร์วีย์ ถ้าแกเต็มใจที่จะหย่ากับแมนดี้ ฉันให้นายได้มากกว่าแค่สกู๊ตเตอร์คันเดียวแน่นอน เงินสักล้านหนึ่งเป็นยังไง?

ในตอนแรก ฮาร์วีย์ก้มหัวลง แต่ตอนนี้นั้นเขาได้เหลือบไปเห็นแมนดี้ที่อยู่ข้างๆ เขา จากนั้นเขาก็ส่ายหัวและพูดว่า “คุณปู่ครับ ผมไม่เคยอยากหย่ากับแมนดี้เลยครับ”

สีหน้าของคุณท่านซิมเมอร์ดูแย่ลง เขาชี้นิ้วไปที่ฮาร์วีย์และต่อว่าฮาร์วีย์ด้วยความโกรธเกรี้ยว “ไอ้เ*ว แกกล้าปฏิเสธข้อเสนอดีๆแบบนี้ได้ยังไง! ไสหัวไปให้พ้นเดี๋ยวนึ้! ฉันไม่อยากให้ไอ้คนเหลวแหลกอย่างแกมาร่วมงานเลี้ยงของฉัน!”

ฮาร์วีย์หยุดชะงักไปชั่วขณะ มันทำให้เขาประหลาดใจเลยทีเดียวที่เห็นผู้อาวุโสซิมเมอร์แสดงท่าทีไม่เป็นมิตรกับเขา และยังไม่สนใจความรู้สึกของเขาอีกด้วย เขาทำได้เพียงแค่ส่ายหัวโดยที่ไม่รู้ตัวและเดินจากไป

“ฮาร์วี่ย์…” แมนดี้ที่ดูลังเล เธอไม่รู้ว่าควรจะตามเขาไปดีไหม

เมื่อเห็นเป็นเช่นนั้น ท่านซิมเมอร์จึงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “แมนดี้ ถ้าวันนี้หลานกล้าที่จะตามเขาออกไป ปู่จะตัดปู่ตัดหลานและไม่นับว่าเธอเป็นหลานของปู่!”

แมนดี้ชะงักหยุดเดินโดยพลัน เธอไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่าคุณปู่ของเธอจะใจร้ายใจดำได้ถึงเพียงนี้

ฮาร์วี่ย์พูดขึ้นมาทันทีว่า “คุณอยู่ที่นี่เถอะ ไม่ต้องเป็นทุกข์เพราะผมหรอก”

ก่อนที่แมนดี้จะทันได้ตอบอะไร ฮาร์วีย์ก็หันหลังและจากไปเสียแล้ว

แซ็คหัวเราะร่า “พี่เขยสุดที่รัก นายวางแผนจะกลับบ้านยังไงเหรอ? อย่าบอกนะว่านายจะเดินกลับบ้านน่ะ มานี่สิ ฉันมีอยู่หนึ่งดอลลาร์ตรงนี้ ให้ฉันเป็นคนใจบุญเพื่อให้นายเอาไปจ่ายค่ารถบัสเถอะนะ ไม่ต้องอายหรอกถ้าจะรับไปน่ะ!”

จากนั้น แซ็คก็ควักเหรียญออกมา 1 ดอลลาร์ แล้วโยนมันให้ฮาร์วี่ย์

แล้วพี่น้องตระกูลซิมเมอร์ส่งเสียงหัวเราะกันอย่างสนุกสนานออกมา

ฮาร์วี่ย์กัดฟันกรอด แต่ทว่าเขาก็ยังคงพูดอะไรไม่ออกอยู่ดี หลังจากนั้น เขาได้ออกจากคฤหาสน์หลังนี้ไปทันที

ขณะนั้น โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นทันที

เขาหยิบโทรศัพท์เครื่องเก่าเครื่องเดิมแล้วเหลือบมองมัน เบอร์ที่ส่งข้อความเข้ามาเป็นเบอร์โทรศัพท์ที่ลงท้ายด้วยเลข 8 จำนวน 6 หลัก

ฮาร์วี่ย์ขมวดคิ้วเล็กน้อย จากนั้นเขาก็กดเข้าไปที่กล่องข้อความ แล้วมองดู

“ท่านครับ ยอร์ก เอนเตอร์ไพรส์กำลังประสบกับปัญหาใหญ่ ได้โปรดกลับบ้านมาจัดการกับปัญหาเถอะครับ”
Next Chapter

Related Chapters

  • ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก   บทที่ 2

    "เป็นข้อความจากคนของตระกูลยอร์ก" ฮาร์วี่ย์ขมวดคิ้วเล็กน้อยตระกูลยอร์กเป็นตระกูลที่มีอิทธิพลมากที่สุดในเซาธ์ไลท์ ในตอนแรกนั้นฮาร์วี่ย์เป็นทายาทที่ถูกต้องโดยชอบธรรมแต่เมื่อสามปีก่อน มีคนในครอบครัวกล่าวหาเขาอย่างผิดๆ และใส่ร้ายเขาว่ายักยอกเงินของ บริษัท ดังนั้นเขาจึงถูกตัดออกไปจากตระกูลทันทีคนในตระกูลยอร์กทั้งหมดจึงลงความเห็นเหมือนกันและฮาร์วีย์ก็ถูกปฏิเสธทันที นอกจากนี้พ่อแม่ของเขายังถูกส่งไปต่างประเทศทันที ซึ่งตัวเขาเองนั้นก็ไม่เคยได้พบพวกท่านอีกเลยเมื่อเขาออกจากตระกูลยอร์กเมื่อสามปีก่อน เขาไม่มีเงินติดตัวเลยแม้แต่สตางค์เดียว มรสุมชีวิตครั้งใหญ่นี้ทำให้เขาบอบช้ำและป่วยหนัก โชคดีที่คุณย่าใหญ่ของตระกูลซิมเมอร์ใจดีพอที่จะพาเขาเข้าไปอยู่ชายคาเดียวกันในคฤหาสน์ซิมเมอร์ เธอยอมให้เขาได้เป็นหลานเขยของเธอด้วยซ้ำ นั่นทำให้เขาจึงไม่ต้องตายอย่างน่าอนาถอย่างไรก็ตามแม้ว่าเขาจะแต่งงานกับแมนดี้มาสามปีแล้ว แต่ทั้งคู่แต่งงานกันในนามเท่านั้นไม่ใช่ใช้ชีวิตเฉกเฉ่นสามีภรรยากันจริงๆหากคนในตระกูลซิมเมอร์ไม่พยายามปกป้องชื่อเสียงของพวกเขาแล้วละก็ ฮาร์วีย์อาจไม่มีที่ซุกหัวนอนไปแล้วก็ได้ตอนนี้เป็นเวลา

  • ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก   บทที่ 3

    ครึ่งชั่วโมงต่อมา ฮาร์วี่ย์ก็มาถึงบริษัทของแมนดี้ แต่เขากลับไม่สามารถเข้าไปด้านในได้ ในขณะที่เขากำลังจะเดินผ่านประตูเข้าไป รปภ. คนหนึ่งก็หยุดเขาด้วยกระบองเอาไว้ มันทำให้เขารู้สึกมึนงง ทันใดนั้น รปภ. คนนั้นก็พูดขึ้นมาว่า “ออกไปซะ! เราไม่อนุญาตให้คนขอทานเข้าไปในบริษัทได้”ฮาร์วี่ย์ที่เพิ่งตื่นนอนและเขายังไม่ได้อาบน้ำอาบท่า นอกจากนี้เขายังสวมเสื้อยืดและกางเกงขาสั้นที่มีรอยปะ ซึ่งดูแล้วเขาเหมือนขอทานข้างถนนซะจริงๆนั่นแหละอย่างไรก็ตามฮาร์วี่ย์ก็เคยชินกับเรื่องแบบนั้นไปเสียแล้ว เขายิ้มและพูดว่า “คุณครับ ผมเอาเอกสารมาส่งให้กับภรรยาของผมครับ” “คุณมองไปรอบๆสิ มีภรรยาของคุณหรือเปล่า? รปภ. รู้สึกสงสัย “หรือจะเป็น ซาร่า แม่บ้านทำความสะอาดละ หรือจะเป็นผู้หญิงที่ทำความสะอาดอยู่ในครัวข้างหลัง ลิลลี่หรือเปล่า? “ภรรยาของผมชื่อแมนดี้ครับ” ฮาร์วี่ย์บอกออกไป รปภ. ตกตะลึงในทันที แต่ในไม่ช้าเขาก็หัวเราะออกมาอย่างขบขัน "ผมเข้าใจแล้วละ คุณเป็นลูกเขยของตระกูลซิมเมอร์งั้นหรอ” แต่เขาไม่สามารถหยุดหัวเราะได้ฮาร์วี่ย์ส่ายหัวไปมา มันไม่เคยเกิดขึ้นกับเขามาก่อนเลยเนื่องด้วยว่าเขามีชื่อเสียงมาก "เอาเถอะ

  • ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก   บทที่ 4

    "คำอธิบาย? ทำไมฉันต้องให้คำอธิบายกับนาย” ฮาร์วี่ย์กล่าวออกมาอย่างเย็นชา “อย่างแรกแมนดี้เป็นภรรยาของฉัน โปรดอยู่ให้ห่างจากเธอด้วย ถ้าอยากสร้างภาพก็ไปทำที่อื่น!” “อย่างที่สองถ้าภรรยาของฉันชอบดอกกุหลาบล่ะก็ ฉันจะเป็นคนที่จะซื้อให้เธอเอง! เธอสวยสง่างดงามมาก ของธรรมดาและราคาถูกแบบนี้นะหรอจะเหมาะสมกับเธอ? คืนนี้ฉันจะส่งดอกกุหลาบจากปรากให้เธอเอง!” “อะไรวะเนี่ย! นี่แกเป็นคนปัญญาอ่อนหรือโง่กันแน่เนี่ย? กุหลาบหนึ่งดอกสั่งตรงจากปรากมันมีราคามากกว่าหนึ่งพันดอลลาร์ ฉันได้ยินมาว่าแกกำลังขอสกู๊ตเตอร์จากผู้อาวุโสซิมเมอร์เมื่อวานนี้เองไม่ใช่เหรอ แกนี่มันพวกไม่ได้เรื่องอะไรเลยจริงๆ ถึงแกจะขายไตออกไปข้างหนึ่งมันยังซื้อดอกกุหลาบนั้นไม่ได้แม้สักดอกเดียวด้วยซ้ำ ทำไมแกยังกล้ามาทำอะไรโง่ๆที่นี่?” ดอนดูเย็นชา เขาเป็นคนที่มีสิทธิพิเศษใน ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์เชียวนะ ‘ลูกเขยอย่างแกกล้าดียังไงมาพูดกับฉันแบบนี้?’มิหนำซ้ำ ยังมีอีกเรื่องที่ทำให้เขาเดือดดาลมากที่สุดคือฮาร์วี่ย์กล้าโยนดอกไม้เขาลงพื้นและยังลากแมนดี้เข้าไปในลิฟต์อีก ‘ไอ้เ*วนั่นมันต้องการจะทำอะไร’เมื่อนึกอะไรออกดอนก็ยิ้มเจ้าเล่ห์ในทันที ดูเหมือนเ

  • ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก   บทที่ 5

    “ครับท่าน ผมจะรีบรายงานให้ท่านประธานทราบทันที ท่าน…" “อย่าพยายามต่อรองกับฉัน ไม่งั้นฉันจะทำลาย ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ ให้พินาศทั้งหมด!” ก่อนที่ปลายสายจะได้พูดอะไร ฮาร์วี่ย์ก็ตัดสายไปทันที...ในอาณาเขตคฤหาสน์โกลด์โคสต์ คฤหาสน์ทุกหลังของที่นี่ได้รับการออกแบบโดยนักออกแบบที่มีชื่อเสียงระดับโลก โดยเฉพาะประเภทของกระเบื้องเซรามิกจนถึงประเภทของต้นไม้ พวกเขาได้คัดสรรมันมาอย่างดี มันไม่ใช่ว่าใครก็สามารถที่จะซื้อได้แม้ว่าพวกเขาจะร่ำรวยมากแค่ไหนก็ตามในขณะนั้น ฮาร์วี่ย์กำลังนั่งสบายๆ บนโซฟาที่ระเบียง ตรงข้ามเขาคือ โยนาธาน ยอร์ก ผู้บริหารคนปัจจุบันของธุรกิจทั้งหมดในเครือของตระกูลยอร์ก เขามีศักดิ์เป็นลุงของฮาร์วี่ย์และก็เป็นเขาเองที่ให้คนขับรถของเขาไปรับฮาร์วี่ย์มายังคฤหาสน์แห่งนี้ เมื่อมองไปที่ฮาร์วี่ย์ที่ทำตัวสบายๆ โยนาธานยิ้มและพูดว่า “ฮาร์ฟ นี่เราไม่ได้เจอกันมาหลายปีเลยสินะ นายดูหล่อและกำยำมากกว่าเมื่อก่อนอีกนะ…” “คุณลุง เราไม่ต้องพูดจาอ้อมค้อม วกไปวนมาหรอกครับ เข้าประเด็นกันเลยเถอะ บอกผมมาเถอะครับว่าจะให้ผมช่วยอะไร คุณลุงต้องการให้ผมเข้ามาจัดการปัญหาทั้งหมดงั้นหรอครับ?” ฮาร์วี่ย์ถ

  • ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก   บทที่ 6

    “ดอน?”ฮาร์วี่ย์ชะงักไปชั่วขณะ แต่จากนั้นเขาก็ยิ้มออกมาพลางคิดในใจ ‘ผู้ชายคนนี้ก็เป็นได้เพียงแค่สุนัขรับใช้ที่ ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์เลี้ยงไว้เท่านั้น ก็แค่รอจังหวะที่มันจะถูกเตะออกไปเท่านั้น’“คุณแม่ครับ ผมจะไม่ยอมหย่าเด็ดขาด ถึงแม้ว่าเราจะหย่ากัน แต่นี่ก็ไม่ใช่ธุระอะไรของคุณแม่ ผมหวังว่าคุณแม่จะไม่เข้ามายุ่งเรื่องของเรา” ฮาร์วี่ย์หัวเราะเบาๆอย่างสะใจ พูดจบเขาก็ขี่จักรยานไฟฟ้าคู่ใจจากไป“ไอ้ฮาร์วี่ย์ ไอ้คนไร้ค่า!” ลิเลียนตัวสั่นเทิ้มด้วยความโกรธ เธอเกือบตัดสินใจขับรถของเธอทับฮาร์วี่ย์แล้วเชียว ถึงอย่างนั้นเธอทำได้เพียงแค่ระงับความโกรธและขับออกไปอย่างรวดเร็วหลังจากที่สังเกตุเห็นฝูงชนรายล้อมมองดูอยู่…ในช่วงเวลาหลังเลิกงานแล้ว แมนดี้เดินไปที่แผนกต้อนรับของบริษัทเธอก็เห็นผู้หญิงสองคนหัวเราะคิกคักกันไปมาเหมือนมีพูดคุยเรื่องน่าขันอะไรมากอย่างนั้น แถมยังมีพนักงานหลายคนกำลังดูอยู่พวกหล่อนสองคนอยู่เช่นกัน“สามีของคุณซิมเมอร์เขาเป็นคนที่ไม่ได้เรื่องอะไรเลยนะ เขาบอกว่าจะมอบดอกกุหลาบจากปรากให้เธอ เขากล้าพูดแบบนั้นได้อย่างไร? เขาไม่ได้มองตัวเองในกระจกเลยเหรอ? ดูแค่รถจักรยานไฟฟ้าที่เขาขี่สิ

  • ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก   บทที่ 7

    “ นายคือ…ฮาร์วี่ย์งั้นหรอ?”โฮเวิร์ด สโตน จ้องไปที่ฮาร์วี่ย์อย่างสงสัย เขายิ้มเยาะออกมา หลังจากนั้นเขาจอดรถแล้วเดินตรงเข้าไปในโรงแรมฮาร์วี่ย์มีสีหน้าเจื่อนๆ เขาไม่ได้คาดหวังว่าโฮเวิร์ดจะทำตัวเมินเฉยต่อเขาทั้งสองเข้าไปในห้องจัดงานเลี้ยงที่เป็นอย่างส่วนตัวทีละคน เวลานี้เพื่อนร่วมชั้นทุกคนอยู่ที่นั่นแล้ว ทุกคนมายังประตูเมื่อประตูเปิดออก“นี่ใช่หัวหน้าห้องของพวกเราใช่ไหม? หัวหน้าห้องกลายเป็นคนที่ประสบความสำเร็จมากคนหนึ่งนี่! เขาหล่อมาก!" เสียงในหนึ่งพูดแทรกขึ้นมา แน่นอนว่าในวันนี้โฮเวิร์ทนั้นสวมสูทและรองเท้าหนังคู่หนึ่ง โดยมีกุญแจรถ Audi คันหรูห้อยอยู่ที่เอวของเขา เขาดูหล่อมากในตอนนี้ไม่นานก็มีคนเห็นฮาร์วี่ย์ที่เดินตามหลังโฮเวิร์ดเข้ามา ถึงแม้ว่าชุดสูทที่เขาใส่อยู่นั้นจะไม่พอดีตัวเขา แต่ก็ยังคงเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงระดับไฮเอนด์เพื่อนร่วมชั้นเห็นอย่างนั้นแล้วก็ยิ้ม “ฮาร์วี่ย์ดูเหมือนคุณจะทำได้ดีเช่นกันนะ มาเถอะที่นั่งสองที่นั่งนี้จองไว้สำหรับคุณและหัวหน้าห้องของเรา!”โฮเวิร์ดเหลือบมองฮาร์วีย์แล้วหัวเราะเยาะ เขาส่ายหัวและไม่พูดอะไรอีกเลย เขาไม่ได้เปิดเผยความจริงที่ว่าฮาร์วี่ย์

  • ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก   บทที่ 8

    ในตอนแรกฮาร์วี่ย์อยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เมื่อเขาเห็นโฮเวิร์ดแสดงพฤติกรรมออกมาเขาก็ส่ายหัวและไม่พูดอะไร แต่เขากลับเดินไปข้างๆเชอร์ลีย์และพูดว่า “เราไปด้วยกันไหม ฉันกลัวว่าจะมีปัญหาในภายหลัง”“นี่…” เชอร์ลีย์ลังเลเล็กน้อย เธอมีความสัมพันธ์ที่ดีกับฮาร์วี่ย์ในช่วงเรียนมหาวิทยาลัย แต่เห็นได้ชัดว่าโฮเวิร์ดเป็นตัวหลักในคืนนี้ ถ้าเธอออกไปตอนนี้มันจะไม่ขัดใจโฮเวิร์ดหรือ?อีกด้านหนึ่ง เมื่อโฮเวิร์ดเห็นว่าฮาร์วี่ย์ยังอยู่ที่นั่นและยังไปทำความสนิทสนมกับเชอร์ลีย์อีก ใบหน้าของเขาก็เคร่งเครียดขึ้น เขาจ้องมองไปที่อาร์วี่ย์ “ฮาร์วี่ย์ไม่เป็นไรถ้านายจะไสหัวออกไป แต่นี่นายยังจะพาเพื่อนร่วมชั้นคนสวยของเราไปกับนายด้วยงั้นหรอ นายคิดว่านายเป็นใคร? นายเป็นคนที่ประสบความสำเร็จงั้นเหรอ? อย่าลืมสิ! นายเป็นลูกเขยที่ขออาศัยเขาอยู่แค่นั้น และเรารู้สึกอับอายมากที่มีเพื่อนร่วมชั้นแบบนาย!”"ใช่เลย! เพื่อนร่วมชั้นทุกคนประสบความสำเร็จทั้งกันนั้น คุณนี่มันน่าขายหน้าจริง ๆ!”“อย่าชักช้าและไสหัวออกไปซะ! เชอร์ลีย์ เขาเป็นแค่ลูกเขยที่ไปขออาศัยบ้านคนอื่นอยู่ คุณอย่าไปหลงกลเขานะ!”โฮเวิร์ดที่เป็นตัวหลักในค่ำคืนนี้ และเพ

  • ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก   บทที่ 9

    “อ๊ะ…” โฮเวิร์ดตกตะลึง นี่…“ปฎิเสธงั้นหรอ?”“ ไม่…ไม่…คุณไทสัน ขอให้สนุกและเพลิดเพลินนะครับ…” โฮเวิร์ดไม่กล้ามองหน้าเวนดี้ในขณะที่เขาพูดจบ เขาคว้ากุญแจบนโต๊ะและกำลังจะวิ่งหนีไป“โฮเวิร์ด!ไอ้สารเลว!” เวนดี้ตัวสั่นด้วยความโกรธ เธอไม่เคยคิดว่าสุภาพบุรุษอย่างเขาจะเป็นคนขี้ขลาดอย่างนี้ เพื่อนร่วมชั้นคนอื่นๆ ก็ตกใจกลัวเช่นกัน ทุกคนดูเหมือนขวัญเสียไปกับปัญหานี้ฮาร์วี่ย์เป็นคนเดียวที่มีใบหน้าว่างเปล่า ไม่ใช่เหตุผลอื่นใด แต่เป็นเพราะเขาเคยเป็นคนที่ฝึกฝนและดูแล ไทสัน วูดส์ เมื่อตอนที่เขายังอยู่กับตระกูลยอร์กเมื่อตอนไทสันยังเด็ก เขาต้องใช้ชีวิตอยู่ข้างถนน เขาไม่มีเงินและอำนาจ เขาเกือบตายบนท้องถนนอยู่หลายครั้ง ครั้งหนึ่งฮาร์วี่ย์พบกับเขาและคิดว่าเขาอาจจะกลายเป็นบุคคลสำคัญในอนาคตได้ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจชุบเลี้ยงและฝึกฝนเขาเขาประหลาดใจที่ไทสันเติบโตขึ้นมากในเวลาเพียงไม่กี่ปีถึงอย่างไรก็ตามฮาร์วี่ย์ไม่ได้คาดหวังว่าไทสันจะจดจำเขาได้ เขาไม่ได้เป็นทายาทของตระกูลยอร์กมาหลายปีแล้ว ไทสันอาจจะลืมเขาไปแล้วในขณะเดียวกันไทสันผู้ชั่วร้ายก็กวาดสายตามองผ่านคนอื่นๆ ในห้องอย่างจงใจ แต่เมื่อเขามองผ่าน

Latest Chapter

  • ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก   

    บทที่ 4172

    “อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน

  • ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก   

    บทที่ 4171

    “อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส

  • ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก   

    บทที่ 4170

    “นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา

  • ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก   

    บทที่ 4169

    ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่

  • ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก   

    บทที่ 4168

    อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร

  • ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก   

    บทที่ 4167

    เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้

  • ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก   

    บทที่ 4166

    บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล

  • ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก   

    บทที่ 4165

    ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต

  • ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก   

    บทที่ 4164

    แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข