บทที่ 5
Author: หมาป่าผู้คลั่งรักมันฝรั่ง
last update Last Updated: 2024-10-29 19:42:56
“ครับท่าน ผมจะรีบรายงานให้ท่านประธานทราบทันที ท่าน…"

“อย่าพยายามต่อรองกับฉัน ไม่งั้นฉันจะทำลาย ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ ให้พินาศทั้งหมด!”

ก่อนที่ปลายสายจะได้พูดอะไร ฮาร์วี่ย์ก็ตัดสายไปทันที

...

ในอาณาเขตคฤหาสน์โกลด์โคสต์ คฤหาสน์ทุกหลังของที่นี่ได้รับการออกแบบโดยนักออกแบบที่มีชื่อเสียงระดับโลก โดยเฉพาะประเภทของกระเบื้องเซรามิกจนถึงประเภทของต้นไม้ พวกเขาได้คัดสรรมันมาอย่างดี มันไม่ใช่ว่าใครก็สามารถที่จะซื้อได้แม้ว่าพวกเขาจะร่ำรวยมากแค่ไหนก็ตาม

ในขณะนั้น ฮาร์วี่ย์กำลังนั่งสบายๆ บนโซฟาที่ระเบียง ตรงข้ามเขาคือ โยนาธาน ยอร์ก ผู้บริหารคนปัจจุบันของธุรกิจทั้งหมดในเครือของตระกูลยอร์ก เขามีศักดิ์เป็นลุงของฮาร์วี่ย์และก็เป็นเขาเองที่ให้คนขับรถของเขาไปรับฮาร์วี่ย์มายังคฤหาสน์แห่งนี้

เมื่อมองไปที่ฮาร์วี่ย์ที่ทำตัวสบายๆ โยนาธานยิ้มและพูดว่า “ฮาร์ฟ นี่เราไม่ได้เจอกันมาหลายปีเลยสินะ นายดูหล่อและกำยำมากกว่าเมื่อก่อนอีกนะ…”

“คุณลุง เราไม่ต้องพูดจาอ้อมค้อม วกไปวนมาหรอกครับ เข้าประเด็นกันเลยเถอะ บอกผมมาเถอะครับว่าจะให้ผมช่วยอะไร คุณลุงต้องการให้ผมเข้ามาจัดการปัญหาทั้งหมดงั้นหรอครับ?” ฮาร์วี่ย์ถามอย่างใจเย็นและเขาก็ไม่แม้แต่จะมองไปที่โยนาธานด้วยซ้ำ

โยนาธานหัวเราะเยาะหยัน “ฮาร์ฟ นายนี่ยังคงเป็นคนตรงไปตรงมาเสมอเลยนะ ถ้าอย่างนั้นฉันจะไม่พูดอ้อมค้อมนะ…” ในขณะนั้นโยนาธานดูเหมือนทำอะไรไม่ถูก เขาเป็นคนที่มีอิทธิพลและมีอำนาจมากคนหนึ่งในเมืองนิอัมมี่ เขาสามารถสร้างผลกระทบที่ยิ่งใหญ่ให้กับคนทั้งเมืองได้เพียงแค่ลงมือทำ แต่ตอนนี้เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องถ่อมตัวและยอมจำนนต่อหน้าฮาร์วี่ย์ เพราะเขามีสิ่งที่จะต้องร้องขอ

“ครอบครัวของเราลงทุนตามกระแสและนำเงินไปลงทุนในตลาดหุ้นซื้อขายน้ำมันดิบล่วงหน้า ด้วยเหตุนี้แหละ เราจึงขาดทุนมหาศาล ตอนนี้เงินทุนของครอบครัวเรา…”

“เข้าประเด็นเลยเถอะ! คุณลุงต้องการเท่าไหร่”

“มันไม่มากหรอก ก็แค่ประมาณพันล้านดอลลาร์…”

‘บัดซบ!’ ตาของฮาร์วี่ย์กระตุกสั่นเล็กน้อย 'พันล้านดอลลาร์งั้นหรอ? ทำไมคุณลุงไม่ไปปล้นธนาคารซะเลยล่ะ'

“เอาล่ะครับท่านประธานยอร์ก ผมมีธุระอื่นต้องไปจัดการ ผมขอตัวก่อนนะครับ…” ฮาร์วี่ย์ลุกขึ้นยืนทันทีและกำลังจะออกไป

“ฮาร์ฟ!” โยนาธานค่อนข้างเป็นกังวล เขาพูดออกมาทันทีว่า “เราจำเป็นต้องใช้เงินจำนวนนี้ ถ้าเราไม่มีเงินทุนก้อนนี้ เราจะไม่สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้และธุรกิจเราก็จะเจ๊ง นอกจากนี้ถ้านายต้องการอะไร ฉันยอมทำทุกอย่างที่นายต้องการ!”

ฮาร์วี่ย์มองลึกเข้าไปในดวงตาของโยนาธานและพูดอย่างหมดหนทางว่า “ผมเห็นความจริงใจของคุณลุงนะครับ แต่ปัญหาคือผมจะไปเอาจำนวนมากขนาดนั้นมาจากไหน”

“ฮาร์ฟ นายอยากเห็นครอบครัวของเราพังพินาศจริงๆหรอ? นายมีเงินกว่าล้านล้านดอลลาร์ในบัญชีต่างประเทศของนาย นายสามารถช่วยเรานะฮาร์ฟ แค่เพียงนายให้เงินเล็กน้อยนั่นกับเรา!” โยนาธานรู้สึกประหม่ามากจนดวงตาของเขาแดงก่ำ “นายอย่าลืมสิ ว่านายมาจากไหน!”

ในตอนแรกฮาร์วี่ย์ก็ยิ้มออกมา แต่เมื่อได้ยินเช่นนั้นสีหน้าของเขาก็สลดลง “คุณลุงครับ แต่จากสิ่งที่ผมจำได้ ในช่วงเวลานั้นทุกๆคนต่างก็เชื่อว่าผมไม่สมควรที่จะเป็นทายาทของตระกูลยอร์ก”

“ตระกูลของเรามีมากกว่าร้อยคน ไม่มีใครสักคนที่จะไถ่ถาม มีแต่คอยประณามกันอย่างรุนแรงครั้งหนึ่งผมเคยเป็นคนที่ทำผลกำไรให้ครอบครัวอย่างมหาศาล แต่ผมกลับถูกไล่ออกมาเหมือนตัวปัญหา แต่มาตอนนี้คุณลุงกำลังขอให้ผมจดจำว่าผมมาจากไหนนั้นหรอครับ คุณลุงไม่คิดว่ามันจะดูตลกไปหน่อยเหรอครับ?

“ทำไมคุณลุงไม่ลองคิดดูว่าผมทำงานหนักแค่ไหนเพื่อหาเงินมาจุนเจือครอบครัวในช่วงตลอดหลายปีที่ผ่านมา? คุณลุงมีความสุขกับเงินและผลกำไรที่ผมหามาได้ แต่สุดท้ายกลับปฏิเสธผม”

“ผมกลายเป็นลูกเขยที่ไร้ค่าของครอบครัวอื่นในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา ผมใช้ชีวิตที่น่าสมเพชนั่น คุณลุงไม่แม้จะมาเยี่ยมหรือยื่นมือเข้ามาให้ความช่วยเหลือผมเลย”

“ถ้าคุณลุงไม่ได้อยู่ในวิกฤตครั้งใหญ่นี้ คุณลุงยังจำทายาทคนก่อนได้ไหมครับ” ฮาร์วี่ย์พูดทุกคำอย่างหมดจด

ดวงตาของโยนาธานกระตุกเล็กน้อย เขาพูดทันทีว่า “ฮาร์ฟ พวกเราผิดไปแล้ว ให้เราได้ทำอะไรเพื่อเป็นการขอโทษนายเถอะนะ ฉันอยากให้นายยกโทษให้กับเรา... แต่ตอนนี้เราต้องการให้นายช่วยแก้ไขวิกฤตนี้ก่อน ฉันสามารถตัดสินใจอะไรก็ได้ทันทีที่นี่ นับจากนี้เป็นต้นไปนายคือ ซีอีโอของยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์!”

แม้ว่า ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ ไม่ใช่บริษัทที่ใหญ่ที่สุดในตระกูลยอร์ก แต่มันก็เป็นบริษัทที่มีศักยภาพมากที่สุด ที่มุ่งเน้นไปที่การลงทุนเพื่อแลกกับการเป็นเจ้าของในบริษัทนั้น นอกจากนี้ยังมีหุ้นอยู่มากในหลายบริษัทในเมืองนิอัมมี่ ทั้งหมดรวมถึงผลิตภัณฑ์และแผนงานใหม่ๆที่กำลังจะเข้าจดทะเบียน

แต่ในตอนนี้ บริษัทแห่งนี้อยู่ภายใต้การดูแลของ เบลล์ ยอร์ค ซึ่งเป็นลูกสาวของโยนาธาน เธอเป็นลูกพี่ลูกน้องของฮาร์วี่ย์ น่าแปลกที่โยนาธานกำลังจะส่งมอบบริษัทนี้ให้กับเขา

“ก็ดีนะครับ ผมรับข้อเสนอนนี้” ฮาร์วี่ย์พิจารณาอยู่ครู่หนึ่ง ตอนแรกเขาไม่หยากจะยุ่งเกี่ยวกับคนในตระกูลยอร์กอีก แต่เขายังจดจำสิ่งที่เกิดขึ้นในเช้าวันนั้นได้อย่างชัดเจน หากเขาไม่ได้เป็นเจ้าของบริษัท เขาก็จะถูกรังแกได้ง่ายและถูกประณามจากใครหลายๆคน

“ไม่ต้องกังวล ลุงจะจัดการให้เรียบร้อย พรุ่งนี้ลุงจะเข้าบริษัทและลงนามในเอกสารให้เรียบร้อย แล้วลุงจะจัดการเรื่องดอกกุหลาบจากปรากให้…” โยนาธานถอนหายใจด้วยความโล่งอก หากฮาร์วี่ย์ไม่ยินยอมที่จะช่วยเหลือพวกเขาแล้วละก็ ตระกูลยอร์กคงจะต้องทนทุกข์ทรมานอย่างมากแม้ว่าพวกเขาจะไม่ล้มละลายก็ตาม

ฮาร์วี่ย์ไม่สนใจเรื่องของเขาอยู่แล้ว หากเขาไม่สามารถจัดการกับเรื่องเล็กน้อยเช่นนั้นได้ เขาก็ไม่สามารถอยู่รอดได้ในสายงานธุรกิจนี้

“ยังไงก็ ผมขอยืมชุดสูทนี้หน่อยนะครับ” ฮาร์วี่ย์ที่กำลังจะจากไป แต่เขาเห็นชุดสูทใหม่ที่วางอยู่บนโซฟา ดวงตาของเขาก็เปล่งประกาย

คืนนี้เขาจะไปงานรวมรุ่นเพื่อพบปะเพื่อนร่วมชั้นเรียนจากมหา’ลัยและเขาก็ยังกังวลเกี่ยวกับเสื้อผ้าที่ดูดีไว้สำหรับใส่ออกงาน ซึ่งตอนนี้ก็ไม่มีเวลาแล้วที่จะออกไปหาซื้อ เขาจึงตัดสินใจยืมมันจากโยนาธาน

"ไม่เป็นไร ถ้านายชอบก็เอาไป มันเป็นของขวัญจากแบรนด์ Armani ยังมีป้ายราคาติดอยู่เลย” โยนาธานพยักหน้าอย่างสบายๆ แม้ว่าชุดสูทนั้นจะมีราคาแพง แต่ก็ไม่มีความหมายอะไรเลยหากเทียบกับหนึ่งพันล้านดอลลาร์ ประธานบริษัทยอร์กอย่างเขาจะสนใจเรื่องแค่นี้ได้อย่างไร?

ฮาร์วี่ย์ไม่ได้คิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาจึงไปเปลี่ยนเป็นชุดในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที จากนั้นเขาก็เหลือบมองไปที่รองเท้าของตัวเองแล้วหันไปมองตู้รองเท้าของโยนาธานด้วยความรังเกียจ

โยนาธานดูเหมือนจะเป็นคนมีกลิ่นเท้า ‘ฉันไม่อยากใส่รองเท้าของเขาเลย ฉันจะใส่รองเท้าแตะของฉันเนี่ยแหละ'

เขาได้ยินมาว่าเพื่อนร่วมชั้นทุกคนจะเข้าร่วมการรวมรุ่นในคืนนี้ ดูเหมือน เวนดี้ เซอร์เรล ดาวมหา’ลัยในปีนั้นก็มางานนี้ด้วย ฮาร์วี่ย์เลยมีความกระตือรือร้นเล็กน้อย

หลังจากฮาร์วี่ย์ออกจากคฤหาสน์ เขาก็ผิวปากและขี่จักรยานไฟฟ้าคันเก่าไปที่โรงแรมแพลตตินั่ม การรวมรุ่นจะจัดขึ้นที่นั่นและเขากลัวว่าหากเขาช้ากว่านี้จะไปงานสาย

ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงแตรรถดังมาจากด้านหลัง พร้อมด้วยรถปอร์เช่คันหนึ่งจอดอยู่ข้างๆฮาร์วี่ย์ หน้าต่างรถก็ลดลงอย่างช้าๆ

เขาเห็นแม่ยายที่กำลังถอดแว่นกันแดดของเธอออกและมองมายังเขาอย่างเฉยชา ในตอนนี้มันทำให้เขารู้สึกอึดอัด

แม้ว่าลิเลียน เยตส์ จะเป็นแม่ยายของฮาร์วี่ย์ แต่เธอก็ดูเหมือนหญิงสาวที่อายุเพียงสามสิบปี นั่นเ็นเพราะว่าเธอดูแลรูปร่างหน้าตาและสุขภาพเป็นอย่างดี เธอดูสง่างามและใครๆ ก็สามารถสังเกตเห็นความคล้ายคลึงกันระหว่างเธอกับแมนดี้เนื่องจากทั้งคู่สวยสง่างามโดดเด่นมาก

อย่างไรก็ตามเธอกำลังจ้องมองไปที่ฮาร์วี่ย์ จากนั้นเธอก็พูดอย่างเย็นชาว่า “นายเอาชุดสูทนั้นมาจากไหน”

ตลอดสามปีที่ฮาร์วี่ย์อยู่ภายใต้ตระกูลซิมเมอร์ คนที่เขากริ่งเกรงที่สุดคือ ลิเลียน เมื่อได้ยินเช่นนั้นเขาก็พูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาทันที “คุณแม่ครับ ผมยืมมันมาจากเพื่อน…”

“ โอ้? นายมีเพื่อนด้วยหรอ” ลิเลียนยิ้มอย่างเยือกเย็น จากนั้นเธอก็พูดว่า วันนี้มีคนมารายงานฉันนะว่าเกิดอะไรขึ้นที่บริษัทบ้าง เนื่องจากนายไม่มีความสามารถที่จะทำอะไรให้ประสบความสำเร็จได้เลยสักอย่าง กลับบ้านไปซะแล้วเก็บข้าวของของนายคืนนี้ให้หมด พรุ่งนี้ก็เซ็นใบหย่า ไม่ต้องกังวลไปละ ฉันจะส่งเสียค่าเลี้ยงดูให้นาย”

ความหนาวเยือกเย็นสั่นสะท้านวิ่งวนไปตามกระดูกสันหลังของเขา “แต่…คุณแม่ครับ…ผมรักแมนดี้จริงๆ ผมขาดเธอไม่ได้…”

เมื่อได้ยินเช่นนั้นลิเลียนก็หัวเราะออกมาอย่างสมเพชและพูดว่า “อย่าเรียกฉันว่าแม่นะ ฉันไม่มีลูกชายอย่างแก ถ้าฉันกลายเป็นแม่ของแกจริงๆ ฉันกลัวว่าบรรพบุรุษของฉันจะผิดหวังในตัวฉัน …”

“ยิ่งไปกว่านั้น นายอย่ามาอ้างว่าแกรักลูกสาวของฉัน ยังไงล่ะ? แกมีสิทธิ์อะไรถึงมีจะมารักลูกสาวฉัน แกทำอะไรได้บ้างงั้นเหรอนอกจากทำความสะอาดบ้าน แกไม่รู้ตัวบ้างเลยหรือไงว่าได้ทำลายช่วงเวลาที่มีค่าของชีวิตลูกสาวฉันไปตลอดสามปีที่ผ่านมา”

“เมื่อกี้ดอนโทรหาฉัน เขาบอกว่าเขายินดีที่จะจ่ายเงินหนึ่งล้านดอลลาร์เป็นของขวัญแต่งงานหากฉันยอมให้เขาแต่งงานกับแมนดี้ แกรู้หรือเปล่าล่ะว่ามันมีมูลค่ามากแค่ไหน? ฉันว่าแกคงไม่รู้ค่าของมันสินะ”

Related Chapters

  • ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก   บทที่ 6

    “ดอน?”ฮาร์วี่ย์ชะงักไปชั่วขณะ แต่จากนั้นเขาก็ยิ้มออกมาพลางคิดในใจ ‘ผู้ชายคนนี้ก็เป็นได้เพียงแค่สุนัขรับใช้ที่ ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์เลี้ยงไว้เท่านั้น ก็แค่รอจังหวะที่มันจะถูกเตะออกไปเท่านั้น’“คุณแม่ครับ ผมจะไม่ยอมหย่าเด็ดขาด ถึงแม้ว่าเราจะหย่ากัน แต่นี่ก็ไม่ใช่ธุระอะไรของคุณแม่ ผมหวังว่าคุณแม่จะไม่เข้ามายุ่งเรื่องของเรา” ฮาร์วี่ย์หัวเราะเบาๆอย่างสะใจ พูดจบเขาก็ขี่จักรยานไฟฟ้าคู่ใจจากไป“ไอ้ฮาร์วี่ย์ ไอ้คนไร้ค่า!” ลิเลียนตัวสั่นเทิ้มด้วยความโกรธ เธอเกือบตัดสินใจขับรถของเธอทับฮาร์วี่ย์แล้วเชียว ถึงอย่างนั้นเธอทำได้เพียงแค่ระงับความโกรธและขับออกไปอย่างรวดเร็วหลังจากที่สังเกตุเห็นฝูงชนรายล้อมมองดูอยู่…ในช่วงเวลาหลังเลิกงานแล้ว แมนดี้เดินไปที่แผนกต้อนรับของบริษัทเธอก็เห็นผู้หญิงสองคนหัวเราะคิกคักกันไปมาเหมือนมีพูดคุยเรื่องน่าขันอะไรมากอย่างนั้น แถมยังมีพนักงานหลายคนกำลังดูอยู่พวกหล่อนสองคนอยู่เช่นกัน“สามีของคุณซิมเมอร์เขาเป็นคนที่ไม่ได้เรื่องอะไรเลยนะ เขาบอกว่าจะมอบดอกกุหลาบจากปรากให้เธอ เขากล้าพูดแบบนั้นได้อย่างไร? เขาไม่ได้มองตัวเองในกระจกเลยเหรอ? ดูแค่รถจักรยานไฟฟ้าที่เขาขี่สิ

  • ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก   บทที่ 7

    “ นายคือ…ฮาร์วี่ย์งั้นหรอ?”โฮเวิร์ด สโตน จ้องไปที่ฮาร์วี่ย์อย่างสงสัย เขายิ้มเยาะออกมา หลังจากนั้นเขาจอดรถแล้วเดินตรงเข้าไปในโรงแรมฮาร์วี่ย์มีสีหน้าเจื่อนๆ เขาไม่ได้คาดหวังว่าโฮเวิร์ดจะทำตัวเมินเฉยต่อเขาทั้งสองเข้าไปในห้องจัดงานเลี้ยงที่เป็นอย่างส่วนตัวทีละคน เวลานี้เพื่อนร่วมชั้นทุกคนอยู่ที่นั่นแล้ว ทุกคนมายังประตูเมื่อประตูเปิดออก“นี่ใช่หัวหน้าห้องของพวกเราใช่ไหม? หัวหน้าห้องกลายเป็นคนที่ประสบความสำเร็จมากคนหนึ่งนี่! เขาหล่อมาก!" เสียงในหนึ่งพูดแทรกขึ้นมา แน่นอนว่าในวันนี้โฮเวิร์ทนั้นสวมสูทและรองเท้าหนังคู่หนึ่ง โดยมีกุญแจรถ Audi คันหรูห้อยอยู่ที่เอวของเขา เขาดูหล่อมากในตอนนี้ไม่นานก็มีคนเห็นฮาร์วี่ย์ที่เดินตามหลังโฮเวิร์ดเข้ามา ถึงแม้ว่าชุดสูทที่เขาใส่อยู่นั้นจะไม่พอดีตัวเขา แต่ก็ยังคงเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงระดับไฮเอนด์เพื่อนร่วมชั้นเห็นอย่างนั้นแล้วก็ยิ้ม “ฮาร์วี่ย์ดูเหมือนคุณจะทำได้ดีเช่นกันนะ มาเถอะที่นั่งสองที่นั่งนี้จองไว้สำหรับคุณและหัวหน้าห้องของเรา!”โฮเวิร์ดเหลือบมองฮาร์วีย์แล้วหัวเราะเยาะ เขาส่ายหัวและไม่พูดอะไรอีกเลย เขาไม่ได้เปิดเผยความจริงที่ว่าฮาร์วี่ย์

  • ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก   บทที่ 8

    ในตอนแรกฮาร์วี่ย์อยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เมื่อเขาเห็นโฮเวิร์ดแสดงพฤติกรรมออกมาเขาก็ส่ายหัวและไม่พูดอะไร แต่เขากลับเดินไปข้างๆเชอร์ลีย์และพูดว่า “เราไปด้วยกันไหม ฉันกลัวว่าจะมีปัญหาในภายหลัง”“นี่…” เชอร์ลีย์ลังเลเล็กน้อย เธอมีความสัมพันธ์ที่ดีกับฮาร์วี่ย์ในช่วงเรียนมหาวิทยาลัย แต่เห็นได้ชัดว่าโฮเวิร์ดเป็นตัวหลักในคืนนี้ ถ้าเธอออกไปตอนนี้มันจะไม่ขัดใจโฮเวิร์ดหรือ?อีกด้านหนึ่ง เมื่อโฮเวิร์ดเห็นว่าฮาร์วี่ย์ยังอยู่ที่นั่นและยังไปทำความสนิทสนมกับเชอร์ลีย์อีก ใบหน้าของเขาก็เคร่งเครียดขึ้น เขาจ้องมองไปที่อาร์วี่ย์ “ฮาร์วี่ย์ไม่เป็นไรถ้านายจะไสหัวออกไป แต่นี่นายยังจะพาเพื่อนร่วมชั้นคนสวยของเราไปกับนายด้วยงั้นหรอ นายคิดว่านายเป็นใคร? นายเป็นคนที่ประสบความสำเร็จงั้นเหรอ? อย่าลืมสิ! นายเป็นลูกเขยที่ขออาศัยเขาอยู่แค่นั้น และเรารู้สึกอับอายมากที่มีเพื่อนร่วมชั้นแบบนาย!”"ใช่เลย! เพื่อนร่วมชั้นทุกคนประสบความสำเร็จทั้งกันนั้น คุณนี่มันน่าขายหน้าจริง ๆ!”“อย่าชักช้าและไสหัวออกไปซะ! เชอร์ลีย์ เขาเป็นแค่ลูกเขยที่ไปขออาศัยบ้านคนอื่นอยู่ คุณอย่าไปหลงกลเขานะ!”โฮเวิร์ดที่เป็นตัวหลักในค่ำคืนนี้ และเพ

  • ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก   บทที่ 9

    “อ๊ะ…” โฮเวิร์ดตกตะลึง นี่…“ปฎิเสธงั้นหรอ?”“ ไม่…ไม่…คุณไทสัน ขอให้สนุกและเพลิดเพลินนะครับ…” โฮเวิร์ดไม่กล้ามองหน้าเวนดี้ในขณะที่เขาพูดจบ เขาคว้ากุญแจบนโต๊ะและกำลังจะวิ่งหนีไป“โฮเวิร์ด!ไอ้สารเลว!” เวนดี้ตัวสั่นด้วยความโกรธ เธอไม่เคยคิดว่าสุภาพบุรุษอย่างเขาจะเป็นคนขี้ขลาดอย่างนี้ เพื่อนร่วมชั้นคนอื่นๆ ก็ตกใจกลัวเช่นกัน ทุกคนดูเหมือนขวัญเสียไปกับปัญหานี้ฮาร์วี่ย์เป็นคนเดียวที่มีใบหน้าว่างเปล่า ไม่ใช่เหตุผลอื่นใด แต่เป็นเพราะเขาเคยเป็นคนที่ฝึกฝนและดูแล ไทสัน วูดส์ เมื่อตอนที่เขายังอยู่กับตระกูลยอร์กเมื่อตอนไทสันยังเด็ก เขาต้องใช้ชีวิตอยู่ข้างถนน เขาไม่มีเงินและอำนาจ เขาเกือบตายบนท้องถนนอยู่หลายครั้ง ครั้งหนึ่งฮาร์วี่ย์พบกับเขาและคิดว่าเขาอาจจะกลายเป็นบุคคลสำคัญในอนาคตได้ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจชุบเลี้ยงและฝึกฝนเขาเขาประหลาดใจที่ไทสันเติบโตขึ้นมากในเวลาเพียงไม่กี่ปีถึงอย่างไรก็ตามฮาร์วี่ย์ไม่ได้คาดหวังว่าไทสันจะจดจำเขาได้ เขาไม่ได้เป็นทายาทของตระกูลยอร์กมาหลายปีแล้ว ไทสันอาจจะลืมเขาไปแล้วในขณะเดียวกันไทสันผู้ชั่วร้ายก็กวาดสายตามองผ่านคนอื่นๆ ในห้องอย่างจงใจ แต่เมื่อเขามองผ่าน

  • ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก   บทที่ 10

    เช้าวันรุ่งขึ้น ฮาร์วี่ย์ที่ยังคงเหมือนคนเพิ่งตื่นนอนพร้อมกับผมยุ่งๆ ขี่รถจักรยานไฟฟ้าของเขาไปยังย่านธุรกิจที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดในนิอัมมี่ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ ตั้งอยู่ในทำเลทองที่ดีที่สุดโยนาธานโทรหาเขาเมื่อคืนนี้และบอกว่าเขาได้ดำเนินการโอน ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ ให้กับเขาเรียบร้อยแล้ว เพียงแค่เขาเข้ามาเซ็นเอกสารในวันนี้ บริษัทจะเป็นของเขาในทันทีฮาร์วี่ย์ค่อนข้างกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ หลังจากที่เขาซื้อบริษัทมาด้วยเงินหมื่นล้านดอลลาร์ นั่นเป็นสาเหตุที่เขารีบมาที่นี่ตั้งแต่เช้าโดยไม่ได้ทานอาหารเช้าเลยด้วยซ้ำฮาร์วี่ย์ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อเขาไปถึงบริษัท ไม่น่าแปลกใจที่มันเป็นพื้นที่ที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดในนิอัมมี่ มีรถหรูอยู่ทุกที่ เขาขี่รถจักรยานไฟฟ้ามาที่นี่ ถ้าเขาจอดจักรยานไว้เฉยๆมันอาจจะถูกยกออกไปเขาขี่วนไปรอบๆ บริษัท และในที่สุดก็พบที่จอดรถที่ประตู จู่ๆเขาก็ได้ยินเสียงเบรกดังขึ้นทันทีที่เขาจอดจักรยานจากนั้นก็ตามมาด้วยเสียงโครมคราม รถจักรยานไฟฟ้าของเขาก็ลอยกระเด็นหลังจากถูกรถปอร์เช่ชน"ให้ตายสิ!"ฮาร์วี่ย์พูดไม่ออก รถจักรยานไฟฟ้าของเขาช่างโชคร้ายเหลือเกิน แบตเตอรี่ก็เพิ่

  • ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก   บทที่ 11

    “คุณไล่ผมออกงั้นเหรอ”ฮาร์วี่ย์หัวเราะ พนักงานจะขอไล่เจ้านายออกไปได้อย่างไร? “คุณไม่เข้าใจที่ฉันเหรอ ฉันไล่คุณออก! ไม่ว่าใครจะรับคุณเข้ามาก็ตามฉันไม่สนใจ แต่ตอนนี้ ออกไปซะเดี๋ยวนี้!” เวนดี้กัดฟันกรอดหลังจากพูดจบเธอหยิบเงินจำนวนหนึ่งออกมาจากกระเป๋าและโยนมันลงบนพื้น เธอพูดอย่างดุดันว่า “คุณจะไม่ไปใช่ไหม หรือคุณต้องการเงิน? เอาเงินนี้แล้วออกไปซะ!”ในขณะนี้เสียงแตรที่ดังขึ้นทำให้พนักงานก็แตกตัวแยกย้ายกันไปอย่างรวดเร็วเพราะรถเบนท์ลีย์คันหนึ่งจอดตรงที่จอดรถของประธานบริษัท จากนั้นหญิงสาวในวัยยี่สิบต้นๆ สวมเสื้อเชิ้ตสีขาวกางเกงหนังเนื้อละเอียดและผูกผมหางม้ารีบเดินลงมาพร้อมกับถือกระเป๋าในมือรูปร่างหน้าตาของเธออยู่ในระดับเดียวกับเวนดี้ แต่นิสัยใจคอของเธอนั้นเทียบไม่ได้กับเวนดี้เลยเธอไม่แม้แต่มองคนอื่นๆและรีบเดินไปหาฮาร์วี่ย์ เธอโค้งคำนับเก้าสิบองศาแล้วพูดว่า “ฉันขอโทษค่ะมิสเตอร์ยอร์ก พอดีจราจรติดขัดนิดหน่อย ทำให้ดิฉันมาช้า”ฮาร์วี่ย์มองไปที่หญิงสาวหน้าตาคนนี้และจำได้ว่าเธอคืออีวอนน์ ซาเวียร์ เธอเคยอยู่ภายใต้การดูแลของเขาเมื่อตอนเขายังอยู่ที่ตระกูลยอร์ก เขาไม่เคยคิดว่าเธอจ

  • ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก   บทที่ 12

    เวนดี้หน้าแดงขณะที่ฮาร์วี่ย์จ้องตรงมาที่เธอ เธอรู้สึกอาย เมื่อคืนนี้เธอยังหยิ่งผยองต่อหน้าฮาร์วี่ย์และยังดูหมิ่นเขาที่ริอาจมานั่งข้างๆเธอ ถึงอย่างนั้นเธอยังคงยืนอยู่ที่นี่ในวันนี้เพื่อรอคำสั่งของเขาฮาร์วี่ย์จ้องมองเธอสักพัก แม้ว่าเพื่อนร่วมชั้นคนนี้ของเขาจะดูเย็นชาไปหน่อย แต่นิสัยของเธอก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้นเขาพูดอย่างใจเย็นทันทีที่คิดถึงเรื่องนี้ “ผมจะไม่ไล่คุณออกเพราะเรื่องนี้หรอก สำหรับการเลื่อนตำแหน่งของคุณ คุณต้องแสดงให้ผมเห็นว่าคุณมีความสามารถแค่ไหนแล้วเราค่อยมาพูดถึงเรื่องนี้กัน”เขาไม่สนใจเธอหลังจากพูดแบบนั้นออกไป เขาเพิ่งได้มาบริษัทมาและยังไม่รู้ว่าบริษัทดำเนินธุรกิจอย่างไร แล้วเขาจะมาเสียเวลาคุยเรื่องไร้สาระแบบนี้กับเวนดี้ได้อย่างไร?แม้ว่าเวนดี้จะสวย แต่ฮาร์วี่ย์ก็เคยเห็นผู้หญิงที่สวยกว่า อย่างน้อยแมนดี้ภรรยาของเขาก็สวยกว่าเธอด้วยซ้ำ…เมื่อประธาน ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์เปลี่ยนไป การลงทุนโครงการปัจจุบันทั้งหมดก็ชะลอเอาไว้ ถึงอย่างนั้นพวกเขาได้เพิ่มเงิน 5 พันล้านดอลลาร์เพื่อจะลงทุนในโครงการที่มีปะสิทธิภาพข่าวที่ออกมาเป็นเหมือนสายฟ้าฟาดดังสนั่นไปทั่วผืนดิน ข่าวนั้นได้ก

  • ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก   บทที่ 13

    "ฮะ?" ฮาร์วี่ย์อึ้งไปชั่วขณะ ทั้งยังลืมที่จะกลืนสเต็กในปากลงไป ทำไมเขาไม่รู้ว่ายังไงสักวันเรื่องนี้จะเกิดขึ้น?ซินเธียร์รู้สึกขยะแขยงขึ้นมาเมื่อเห็นฮาร์วีย์กลืนน้ำลาย เธอพูดขึ้นนมาว่า “ฉันไม่กังวลที่จะบอกนายหรอกนะ พี่ดอนได้มาสู่ขออย่างเป็นทางการกับตระกูลซิมเมอร์แล้ว และเขาจะส่งสินสอดมาให้เราคืนนี้ ถ้าคุณฉลาดพอก็อย่าทำอะไรโง่ ๆ เลย ไม่อย่างนั้นละก็... ”ซินเธียร์หัวเราะเยาะเมื่อเธอพูดมันออกไป แม้ว่าตระกูลซิมเมอร์จะดำเนินธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมาย พวกเขาก็มีบอดี้การ์ดอยู่หมือนกัน หากไอ้คนขี้แพ้คนสร้างปัญหาขึ้นมาละก็ พวกเขาก็จะทำให้เขาร่วงลงไปนอนที่พื้นอย่างแน่นอน“เอาล่ะทุกคน เงียบได้แล้ว คุณปู่มีบางอย่างจะแจ้งให้ทราบ!”คุณปู่ซิมเมอร์คือคนที่มีตำแหน่งสูงสุดเอื้อมมือออกไปเคาะบนโต๊ะเบา ๆ เขาประเมินสถานการณ์และพูดว่า “ทุกคน่าจะได้ยินข่าวนี้แล้วใช่ไหม? ไม่แน่ใจว่าทำไมถึงมีการเปลี่ยนแปลงประธานของ ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์อย่างกะทันหัน ประธานคนใหม่ได้ยุติการลงทุนทั้งหมดที่เคยมีการเจรจาก่อนหน้านี้ แล้วจะมีการลงทุนกับบริษัทอื่นอีก 5 พันล้านดอลลาร์... "“ฉันไม่รู้ว่าประธานคนใหม่ลึกลับแค่ไหน

Latest Chapter

  • ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก   

    บทที่ 4172

    “อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน

  • ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก   

    บทที่ 4171

    “อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส

  • ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก   

    บทที่ 4170

    “นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา

  • ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก   

    บทที่ 4169

    ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่

  • ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก   

    บทที่ 4168

    อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร

  • ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก   

    บทที่ 4167

    เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้

  • ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก   

    บทที่ 4166

    บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล

  • ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก   

    บทที่ 4165

    ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต

  • ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก   

    บทที่ 4164

    แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข